เดินอย่างผู้กำลังเดินอยู่


เดินอย่างผู้ที่กำลังเดินอยู่......นั่งอยู่อย่างผู้มีสติ...... นอนพิจารณาดูจิตใจ.....เคลื่อนไหวรู้ทันตามอารมณ์...... เดินอย่างผู้ที่กำลังเดินอยู่......นั่งอยู่อย่างผู้มีสติ......นอนพิจารณาดูจิตใจ......เคลื่อนไหวรู้ทันตามอารมณ์

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ธรรมอยู่ที่ใดหนอ...

มีหนังสือ มีคำภีร์ ใช่มีธรรม

หากแต่ใจ มิน้อมนำ ธรรมอาศัย

มีร้อยพัน หมื่นเล่ม ใช่นำใจ

เพียงแต่รู้ รู้ไป...นั่นแหละธรรม

....

รู้ในความ เป็นไป ปัจจุบัน

ตำรานั้น ใช่ธรรม นั้นฉะไหน

เพียงละกู ละเขา ว่างร่ำไป

ธรรมอื่น..ใดหาใช่..ว่าคำภีร์




โลกธรรม 8 หรือ...

ครั้นได้ลาภก็ย่อมมีเสื่อมลาภ

ยศปลื้มปราบ เสื่อมยศก็สลด

คำติเตียนแลสรรเสริญอย่าเติมทด

เพราะจะอด สุขทุกข์ ไม่ได้จริงนา...

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

รู้ละ..รู้ปล่อยวาง

เพียรอาศัยตัวรู้..จึงรู้ตัว...
มิรู้ตัวตัวรู้จะมีไหม..
ทั้งเกิด ดับและปล่อยวาง...คือสิ่งใด...
หากมิใช่..ไม่มี ไม่เที่ยงเอย

เห็น..ทางธรรม

หัวเราะร่า...ฮา ฮ่า ฮ้า..เพราะว่าเห็น..
ซึ่งทางเย็นสู่ใจ...มิสงสัย...
จึงเฝ้าเพียร...เดินทาง..ด้วยกายใจ..
สู่จุดหมาย..ในที่สุดหลุดพ้นเอย.

ปัจจุบันกาล..

หายจากสภาวะ....
ละจากอดีต...
เร่งพิจารณาปัจจุบัน
อนาคตนั้น..ใช่พึงหวังพึ่งพา...

โอกาสใจ..

ขาดเพื่อ..รองรับการต่อเติม...
ขาดเพื่อเพิ่มสิ่งที่ขาด...
ขาดมิใช่ว่า.....ขาดโอกาส
ขาดใช่..ว่าจะขาดใจ...

ทำวันนี้...

อย่าหวังในวันพรุ่งนี้เลย...
อย่าวางเฉยในช่วงเวลานี้...
อย่าวางใจในทุกข์สุขที่มี..
พึงกระทำกายวาจาใจวันนี้..ให้ดีจริง

ก.การเกิด

ก่อนเก่าแก่การเกิดก็เกลื่อนกล่น...
กล่าวการเกิดเกินกลไกเกวียนกวาดก้อง...
ก็กล้ำกลายแกล้วกล้ากรรมกู่กอง....
แก้เกิด..กรอง ก่อนกลับกลาย ไกลกาลเกิน..

อย่างไร...ใครจะรู้.

สายสัมพันธ์อย่างไรที่ได้พบ
ถูกเกลื่อนกลบอย่างไร...ใครจะรู้...
พอวันเดือน..ปีผ่านไป..ใจเฝ้าดู..
สิ่งที่รู้ใช่สิ่งแรก...เพราะอาจกลาย

มอง ๆไง

มองมุมต่าง....
ใช่ต่างมุมมอง..
1+1ใช่เท่ากับ2..
เพราะมุมมองของจิตใจ...

ดั่งเช่น..แสงเทียน

อย่าประมาทในแสงตน...
แม้แสงเทียนครั้งมืดมนยังมีความหมาย...
ยังประโยชน์แก่โลก..ยามมืดฉันใด..
เราท่านนั้นไซร้ก็เช่นกัน

๕ กอง (ขันธ์ ๕)

กังวานไพร เบื้องหลัง ภูผา
สายลมพา พัดผ่าน ต้นไม้ใหญ่..
รูป นาม ใช่จริง สิ่งยึดใจ...
หากหลงไปอาจไหลวัฏฏะวน..

สิบ ร้อย พัน หมื่นสาย ในตำแหน่ง...
ใจรู้สึก ถูกเสเสร้ง กลายเป็นผล
ยลตระการ เวทนา พาจิตวน...
ชวนวกปน ค้นอดีต ขีดชะตา

ในสัญญา...จำได่ว่า ข้ามีสุข..
แม้ความทุกข์ ปลุกมาได้ ไม่หรรษา
ผูกใจนี้เรื่อยไปในเวลา...
เหตุใดปีก..เจ้าไม่กล้า..ถลาไป

หากจะมัว อาลัย ในกายนี้..
ก็รู้ดี ว่าจะมีเที่ยงที่ไหน...
แม้ ภูเขา ป่าไม้ ย่อมมลายไป..
สู่วัฏฏะ ใดๆไซร้ ทุกเมื่อแล

โลกทัศน์กว้างใหญ่ ใครรับรู้...
สิ่งมีอยู่ มากมาย ในกระแส
อาจอาศัย เหล่านี้ ตรึกตรองแปล
ให้เห็นแค่ปัจจุบัน รู้ ทัน ตาม......

ยุติธรรม..นำใจและใจนำ

เป็นธรรม..เป็นได้ที่จะทำ..
ใจนำ...เพราะรู้นำใจ...
เข้าสู่....เส้นทางธรรมนามัย
เสริมสร้าง...รักษาใจ..ให้เป็นธรรม

ก็แค่...ใจ

ต่อ...ให้มีความรัก...มากมาย...
แต่...ไม่มีคนให้รัก...เพียงพอ..
ต่อ....ให้มีหัวใจ...ใครใคร่ขอ..
แต่...ไม่มี..ความรู้สึก..ใน จ.ใ.=ใจ

ผีเสื้อ...โผบิน

นภากว้างไกล.

ปีกเจ้าก็ชั่งอ่อนไหวนัก

กลัวการเดินทางที่โหมหนัก...

ทำให้ปีกเจ้าหัก...หาโบยบินเพียงพอ

รอรักจริง...

เธอคงไม่มีวันกลับมา
ฉันจึงไม่ปล่อยใจอ่อนล้าอยู่ตรงนี้
ถึงเจ็บปวดกับน้ำตาที่มี
ฉันก็ยังมีเพื่อนอยู่ตรงนี้มากมาย....
แต่อยากให้เธอรู้นะคนดี
ว่าฉันคนนี้ยังคงรักเธอมากแค่ไหน
แม้เวลานี้เธออาจคิดถึงใคร
แต่หนึ่งลมหายใจยังคงอยู่ต่อ...รอรักจริง....

คืนเดียวดาย....

จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
ขอเฝ้ามองได้ไหม
ในคืนที่แสนเดียวดาย
ขอเฝ้ามองแสงฉาย..แม้ดายเดียว

เวหาคราจันทร์งาม...

จันทร์กระจ่างบนฟากฟ้า...
หมู่เมฆาเอื่อยโอบคลุม..
ผืนน้ำครายความชุ่ม...
เข้าปกกลุ่มพฤกษาไพร...

เรไรสงเสียงแจ้ว..
ชื่มชมแล้วซึ่งจันทร์ใส..
พร่ำสำเนียงเคียงจันทร์ยามอำไพ
ชวนนำใจ...เข้าสู่สุนทรีย์

ค่า..เพียงใด..

มีค่าใช่...มีค่า

มนุษย์หาบำเรอตน

แต่ใครใคร่จะสน.....

เพียงแค่หนทางเดินไป......

เวียนวน....

หายรูปเพียงแปลงกาย..
เป็นไอใส..คือละออง
เหินสู่ฟ้าเป็นเมฆผอง...
ครั้นกลั่นกรอง..กลายเป็นหยดฝนริน

วันรุ่ง.....

วิหคผกผินเหินก่อนอรุณ..
กลิ่นละอองน้ำ เบากรุ่น..ครั้นสาดต้อง
สู่หมู่หินที่พำนัก...ซัดผ่านนอง
เสียงแว่วก้องท้องฟ้าใน..ยามเช้ามา

เหตุและผล...

เพราะเหตุอย่างนี้..อย่างนี้..
ผลจึงเป็นอย่างนั้น..อย่างนั้น
คอยเอามาคละเคล้า..ให้เข้ากัน..
จึงกลายเป็นอย่างนั้น..อย่างนี้..นี่เอง..

วาง.....

หยิบถือแต่พอดี....
วางสิ่งที่เกินล้นมือ...
ใจก็พึงอย่ายึดถือ...
เพราะนั่นคือ...ไม่แน่นอน..

รักอย่างนั้นหรือ...

ยิ่งตามก็ยิ่งหนี..
ยิ่งหนีกลับยิ่งตาม...
รักนั้นบ้างงดงาม..
แต่ซ่อนช้ำ...อย่างละมุน